การแนะนำตัวอย่างผู้ป่วยที่ข้อเข่า
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเป็นโรคข้อสะโพกผิดรูป?
ถ้าโรคดำเนินยิ่งกว่านั้นอีก จะทำให้ความยาวขาสั้นลง และต้องเดินลากเท้า (Claudication) และกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพและสึกหรอไป จะไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้
ช่วงเริ่มแรก
ช่วงดำเนินโรค
ช่วงปลาย
การรักษาด้วยสิทธิการรักษาทั่วไปมีขีดจำกัด
แม้ว่าจะไม่มีอาการปวด แต่กระดูกอ่อนก็จะสึกหรอมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน และทำให้ข้อสะโพกผิดรูปมากขึ้น โรคข้อสะโพกผิดรูปนี้ มีรูปแบบที่เรียกว่า Rapidly Destructive Coxarthrosis (RDC) ซึ่งเกิดการผิดรูปของข้อต่ออย่างรวดเร็วด้วย จึงต้องมีการตรวจด้วยเอ็กซ์เรย์อย่างสม่ำเสมอ
ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอะไรขึ้น?
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดครั้งใหญ่ก็ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมากต่อร่างกายและจิตใจเช่นกัน นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะรับการผ่าตัดใส่ข้อเทียมไป แต่ก็ยังมีโอกาสพอสมควรที่อาการเจ็บปวดจะไม่ดีขึ้นเท่าที่คิด ผมได้เห็นผู้ป่วยมากมายที่ลังเลและกังวลกับสถานการณ์ที่ลำบากเช่นนี้
ข่าวดี! ตัวเลือกใหม่ รับการรักษาด้านเวชศาสตร์
แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะคิดไม่อยากผ่าตัดเพราะว่า “การผ่าตัดมีความเสี่ยง จึงไม่อยากทำ” หรือ “ไม่สามารถเข้านอนโรงพยาบาลนาน ๆ ได้ เพราะมีหน้าที่การงานและครอบครัว” นอกจากนี้ คนที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ก็มี เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุ ดังนั้นที่คลินิกของเรา จึงมุ่งเน้นไปที่เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ ซึ่งเป็นการรักษาแบบใหม่ที่ไม่ใช่ทั้งการรักษาตามอาการหรือการผ่าตัด
ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาหลังจากที่ได้รู้จักความเป็นไปได้ใหม่ของเวชศาสตร์ฟื้นสภาพที่สามารถทดแทนการผ่าตัดข้อเทียม และทำให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น มีสิ่งที่ทำได้มากขึ้น และสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวและงานอดิเรก ผมก็รู้สึกดีใจอย่างมากในฐานะแพทย์ครับ
คำว่า “เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ” เคยเป็นคำที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ในปัจจุบันเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นวิธีการรักษาใหม่ล่าสุดที่ถูกคาดหวังอย่างมาก เพราะไม่ทำให้เกิดภาระต่อร่างกายมากนัก
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพของคลินิกของเราสำหรับโรคข้อสะโพกผิดรูป เป็นอย่างไร?
ผู้ป่วยแบบนี้ รองรับการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพ
หากคุณได้รับการรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพก่อนที่การผิดรูปจะเข้าสู่ระยะปลาย คุณจะสามารถป้องกันการดำเนินโรคไม่ให้รุนแรงจนต้องผ่าตัดใส่ข้อเทียมได้ การผ่าตัดใส่ข้อเทียม มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน การติดเชื้อ ภาวะเลือดออก และความเสียหายทางระบบประสาท ในทางกลับกัน เวชศาสตร์ฟื้นสภาพที่ใช้สเต็มเซลล์จากไขมันของผู้ป่วยเอง สำหรับการบรรเทาอาการโรคข้อสะโพกผิดรูป เป็นการรักษาที่มีรายงานการรักษาและผลงานมากมายทั่วโลก และเป็นวิธีการรักษาใหม่ล่าสุดที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากในประเทศด้วย
ทำไมต้องเป็นเวชศาสตร์ฟื้นสภาพที่คลินิกเรา?
1. การฉีดเซลล์เฉพาะที่ภายในข้อต่อ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคลินิกเรา
เทคโนโลยีการรักษาความแม่นยำสูงที่จำเป็นสำหรับเวชศาสตร์ฟื้นสภาพข้อสะโพก
การรักษาที่ส่งสเต็มเซลล์เข้าข้อสะโพกโดยตรงเพราะเป็นคลินิกเราจึงทำได้
คลินิกของเราร่วมมือกับห้องแปรรูปเซลล์ชั้นนำของประเทศในด้านคุณภาพและปริมาณของสเต็มเซลล์ และมีผลงานการรักษาข้อสะโพกด้วยสเต็มเซลล์มากมาย ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่รักษายากในประเทศญี่ปุ่น
การฉีดเซลล์เข้าข้อสะโพกทั่วไป
2. ยิ่งจำนวนสเต็มเซลล์มากเท่าไหร่ ยิ่งได้ผลการรักษาที่ดีเท่านั้น
ดูจากภาพจะเห็นได้ชัดเลยว่า ยิ่งมีการฉีดสเต็มเซลล์จำนวนมากเท่าไหร่ ก็จะมีการสร้างกระดูกอ่อนใหม่มากขึ้นเท่านั้น!
จำนวนสเต็มเซลล์ที่ฉีดเข้าไปในข้อต่อ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเซลล์ แต่ว่าที่คลินิกของเรา เราสามารถฉีดสเต็มเซลล์สดใหม่ที่ไม่ได้แช่แข็งได้มากกว่า 100 ล้านเซลล์ โดยขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยเลยล่ะ
ข้อมูลทางคลินิกจากต่างประเทศพิสูจน์ว่ายิ่งใช้สเต็มเซลล์มากเท่าไหร่ ผลการรักษาก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
ยิ่งจำนวนสเต็มเซลล์มากเท่าไหร่ ความเจ็บปวดก็จะน้อยลงเท่านั้น!
3.เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นเอกลักษณ์
อัตราการรอดชีวิตของสเต็มเซลล์สูง เนื่องจากไม่มีการเก็บรักษาโดยการแช่แข็ง
เปรียบเทียบ CPC (ห้องแปรรูปเซลล์)
CPC ของคลินิกของเรา
CPC ของโรงพยาบาลอื่น
การใช้ CPC (ห้องแปรรูปเซลล์) ชั้นนำของญี่ปุ่น ทำให้เราสามารถจัดเก็บเซลล์โดยไม่ต้องแช่แข็งได้แล้ว
ยิ่งใช้สเต็มเซลล์ที่สดใหม่มากเท่าไหร่ การซ่อมแซมก็น่าจะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้นสินะรู้สึกว่ามันคล้ายกับรสชาติปลาทูน่าดิบที่ไม่ได้แช่แข็ง จะอร่อยกว่าปลาทูน่าที่นำมาละลายแข็งสินะ!!
ที่จริงแล้ว ยิ่งมีสเต็มเซลล์ที่สดใหม่จำนวนมากเท่าไหร่ ผลการรักษาก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้นนะสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วในผลการวิจัยจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ คลินิกของเรายังสามารถเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ที่สดใหม่ให้เป็นมากกว่า 100 ล้านเซลล์อีกด้วย
ลักษณะเด่นอื่น ๆ ของเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นเอกลักษณ์
- ปลอดภัยและไว้ใจได้ เพราะสเต็มเซลล์ถูกเพาะเลี้ยงจากเซลล์และเลือดของผู้ป่วยเอง
- เนื่องจากไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ เช่น สารเติมแต่งหรือยา จึงมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงน้อย
- ปริมาณไขมันที่ต้องเก็บมาน้อยมาก ประมาณ 2-3 เม็ด ขนาดเท่าเม็ดข้าว จึงเกิดความเครียดต่อร่างกายน้อย
ข้อควรทราบ เมื่อจะฉีดเซลล์หลายครั้ง
การเพาะเลี้ยงเซลล์ตับไม่ได้ใช้การเพาะเลี้ยงล่วงหน้าแล้วแช่แข็ง แต่ที่คลินิกของเราจะเพาะเลี้ยงทุกครั้งก่อนการฉีด จึงมีจำนวนสเต็มเซลล์มาก และสามารถฉีดสเต็มเซลล์ที่สดใหม่ได้!
ดังนั้นจึงคาดหวังผลการรักษาที่สูงได้
4.ใช้สเต็มเซลล์ที่มีอยู่ในไขมัน เกิดความเครียดต่อร่างกายน้อยกว่าการเก็บจากไขกระดูกหรือเยื่อหุ้มข้อ
วิธีการเก็บเนื้อเยื่อที่คลินิกของเรา สเต็มเซลล์จะถูกสกัดจากเนื้อเยื่อไขมัน วิธีอื่น ๆ ก็จะมีวิธีการสกัดจากไขกระดูก, เยื่อหุ้มข้อ หรืออวัยวะภายใน แต่ละวิธี จะมีผลการรักษาและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน คลินิกของเราใช้สเต็มเซลล์จากไขมัน ซึ่งมีความปลอดภัยสูง และกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก
ใช้สเต็มเซลล์จากไขมัน
- มีความปลอดภัยสูงในการเก็บเซลล์
- เกิดความเครียดต่อร่างกายน้อยกว่าสเต็มเซลล์จากไขกระดูก เยื่อหุ้มข้อ หรืออวัยวะภายใน
ขั้นตอนการรักษา
เราจะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณท้องส่วนล่าง และกรีดเปิดประมาณ 5 มม. เพื่อเก็บไขมันมาประมาณ 2-3 เม็ด ขนาดเท่าเม็ดข้าว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที และแทบไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
เพาะเลี้ยงเซลล์ใน CPC (ห้องแปรรูปเซลล์)
ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
สเต็มเซลล์ของคุณที่เพาะเลี้ยงจะถูกฉีดเข้าไปในข้อเข่า
เวชศาสตร์ฟื้นสภาพอีกแบบหนึ่งการรักษาด้วย PRP (พลาสม่าเกล็ดเลือดเข้มข้น) คืออะไร?
คลินิกของเราจะใช้ Acti-PRP ความเข้มข้นสูง ซึ่งวิธีเฉพาะตัวในการทำให้เกล็ดเลือดใน PRP เข้มข้นขึ้น สิ่งนี้มีประสิทธิภาพมากกว่า PRP ทั่วไปหลายสิบเท่า กำลังเป็นที่ความสนใจในฐานะ PRP ที่ไม่มีสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด
ขั้นตอนการรักษา
ทำการเจาะเลือด
ปั่นแยกส่วนของพลาสมาออกมา
ฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีพยาธิสภาพ
การรักษาด้วยสเต็มเซลล์และการรักษา
ด้วย PRP แตกต่างกันอย่างไร?
การรักษาด้วย PRP
PRP ยับยั้งการอักเสบของข้อเข่า เพิ่มประสิทธิภาพในการฝังตัวของสเต็มเซลล์
→เนื่องจากไม่มีสเต็มเซลล์ จึงไม่สามารถสร้างกระดูกอ่อนได้
การรักษาด้วยสเต็มเซลล์
นำสเต็มเซลล์ออกมาจากร่างกาย (เซลล์ไขมัน) ทำไปเพาะเลี้ยง และฉีดเข้าไปในข้อเข่า
→สเต็มเซลล์จะสร้างกระดูกอ่อน
ผมหวังว่าในอนาคต การรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นสภาพจะแพร่หลายมากกว่านี้ ในฐานะการรักษาที่ทดแทนการผ่าตัด